เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายพูนศักดิ์ ว่องตระกูล อายุ 60 ปี พร้อมด้วย นางสาวอารยา ว่องตระกูล อายุ 30 ปี เดินทางเข้าพบเพื่อให้ข้อมูล พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 หลังถูกมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น เจ้าหน้าที่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) ให้กดลิงค์ ลงทะเบียนเพื่อรับเงินปัน ผล 2,000 บาท เนื่องในวาระฉลองครบรอบ 81 ปี ไทยประกันชีวิตแต่กับถูกดูดเงินเกลี้ยงบัญชี 3,044,748 บาท
นายพูนศักดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย. มีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทไทยประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) ให้กดลิงค์เพื่อรับเงินปันผล 2,000 บาท เมื่อกดลิงค์ ที่ถูกส่งในแอพพลิเคชั่น LINE แล้วมือถือก็หน้าจอ ค้างและไม่สามารถใช้งานได้เลยประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เมื่อโทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ ตนเองจึงเข้าไปเช็คใน แอพพลเิคชั่น ธนาคารกรุงไทย และ ไทยพาณิชย์ ที่มีอยู่ในโทรศัพท์ของตนเองและพบวา่ ยอดเงิน ในแอพพลิเคชั่นของแอพธนาคารทั้ง 2 แอพได้ถูกทําการโอนออกไปยังบัญชีอื่นทั้งหมด จน ยอดเงินในบัญชีติดลบโดยที่ตนเองไม่ได้มีการทํานิติกรรมเองใน แอพพลิเคชั่นของธนาคารนั้นเลยและยังพบอีกว่า ใน Inbox SMS ของโทรศัพท์มือถือของตนเองมีข้อความ OTP หลายข้อความ ตนเองจึงรีบไปที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อรีบดําเนินการแจ้งอายัดบัญชี และในเวลากลางคืนมีข้อความผิดปกติของ OTP ที่มา จาก SMS CARDX ของธนาคารไทย ยอดทั้งหมด 1,755,636 บาท พาณิชย์ ยอดทั้งหมด 1,289,112 บาท นอกจากยอดที่ถูกโอนออกจากแอพพลิเคชั่นธนาคารแล้วยังมียอด รวมเงินเครดิตลบอีก 3 แสน ที่ถูกโอนออกจากบัญชีไป ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทําธุรกรรมช่วงเวลาดังกล่าวตนเองจึงไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน. พหลโยธิน และส่งเรื่องมาที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจก็ยังไม่ได้รับข้อมลูหรือเอกสารกับจากธนาคารเลยโดยเจ้าหน้าที่ตํารวจได้ขอออกเอกสารข้อมูลกับทางธนาคารตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว
นายพูนศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า นับแต่เกิดเหตุเงินถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารกรุงไทยและไทยพาณิชย์ ตน และบุตรสาวได้พยายามติดต่อกับธนาคารต้นทางคือกรุงไทยและไทยพาณิชย์และธนาคารม้าซึ่งเงินถูกโอนไปเข้าบัญชีเพื่อให้รีบอายัดและส่งเลขบัญชีและชื่อของบัญชีม้าไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ตำรวจออกหมายอายัดด่วนภายใน 72 ชม. โดยโทรศัพท์ไปที่คอลเซ็นเตอร์หลายครั้่งก็ไม่มีใครรับสาย หลายครั้งโทรไม่ติด ครั้นเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคาร สาขาแต่ละแห่งหลายครั้งก็ถูกปฎิเสธอ้างว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่โทรศัพท์กลับมาแจ้ง โยนกันไปโยนกันมาทำให้ตนและครอบครัวซึ่งได้รับความเสียหายและกำลังเป็นทุกข์ รู้สึกว่าธนาคารไม่พยายามช่วยแก้สถานการณ์โดยเฉพาะธนาคารออมสิน เจ้าหน้าที่ได้บอกว่า “ดำเนินการไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่มีงานโหลด มีคนมากมายที่เสียหายแบบคุณ” ทำให้การออกหมายอายัดของตำรวจไม่อาจกระทำได้เพราะธนาคารไม่แจ้งข้อมูลมา ซึ่งตนรู้สึกผิดหวังต่อการให้บริการของธนาคาร ไม่เหมือนเวลาประชาสัมพันธ์อยากให้สมัครบัญชี สมัครกองทุน สมัครประกันกับธนาคาร จะมีเจ้าหน้าที่โทรมาติดตาม โทรมาขายอย่างมากเกินพอซ้ำๆ แต่พอลูกค้าเสียหายเดือดร้อน ธนาคารกลับไม่ตอบสนองที่จะแก้ไขอย่างสุดกำลัง เมื่อเป็นดังนี้ เราจะมีธนาคารไปทำไม
พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องดังกล่าวให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี รวมไปถึงสั่งอายัดบัญชีม้าทั้งหมด หาเส้นทางการเงินว่าโอนเงินออกไปถึงบัญชีใครแล้วยอดเงินสุดท้ายไปหยุดที่ใคร ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็จะพบผู้เสียหายที่ใช้โทรศัพท์ ระบบ แอนดรอยด์ และมีแอปธนาคาร เบื้องต้นตนแนะนำให้ลบแอปธนาคารออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัยหรือหากเกิดเหตุการณ์โดนแฮกข้อมูลแล้วมือถือมีหน้าจอ ค้างและไม่สามารถใช้งานได้ให้นำซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์ออกจากเครื่องโดยทันที และรีบแจ้งไปยังธนาคารทันทีก็จะช่วยได้อีกทาง